Thursday 7 January 2010

ภาพบรรยากาศ ของวันที่ 7 Jan 2010

สำนักข่าวที่นี้รายงานว่า อาทิตย์นี้หิมะจะตกเป็นอย่างหนัก ในรอบห้าสิบปี ดิฉันเลยได้โอกาศหยุดงานอีกแล้ว จึงมีเวลาที่จะติดตามเก็บภาพบรรยากาศหิมะแถวบ้าน มาให้ชมกัน


                                  แค่รูปแรก เห็นก็หนาวแล้วใช่ไหมหละ บ้านแช่เเข็ง


                             ต้นไม้โดนแช่แข็งค่ะ พอพ้นหน้าหนาวมันก็กลับมีชีวิตขึ้นมาใหม่


                                    ชอบภาพนี้มากวิวสวยดี ถ่ายเองกับมือเลย


                   สวนสาธารณะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ มองไปทางไหนก็มีแต่สีขาว

       เด็กๆไม่้ได้ไปโรงเรียน เพราะหิมะตกหนัก เลยออกมาเล่น snowboard กันอย่างสนุกสนานเชียว


                   ร้าน  coffee shop ช่วงนี้ขายดีเป็นพิเศษ ลูกค้าค่อนข้างแน่ร้านเลยทีเดียว


                    ยายคนนี้มากับหมา พาหมามาเดินเล่นท่ามกลางลานหิมะน้ำแข็ง


                          ไอ้หมาสองตัวนี้มันดูท่าทางน่าสนุกนะ วิ่งเล่นกันทั้งคู่


      เก้าอี้ที่มีไว้ให้คนนั่งก็ยังเต็มไปด้วยน้ำแข็ง รถที่เห็นจอดอยู่บางคันหนาวจัดจนเครื่องสต๊าดไม่ติด


       หลังจากเดินถ่ายรูปได้ซักพัก ก็มีอาการหนาวจนมือและเท้าสั่น เลยขอหยุดเข้าร้านขายกาแฟ
       หาอะไรร้อนๆ เข้าปากซะหน่อย


          เมนูในร้านก็เป็นเครื่องดื่มพวกกาแฟร้อน ช็อคโกเล็ตร้อน ชาร้อน ทั่วไป ส่วนอาหารก็มี ขนมปัง
        มัฟฟิน แพนเค็ก และก็มันฝรั่งทอด


                                            ภาพนี้ถ่ายมาจากด้านในของร้านกาแฟ


                                             ครอบครัวนี้ก็พาเด็กๆ ออกมาเล่นหิมะ


                                     สนุกสนานกันใหญ่ อยากเกิดเป็นเด็กฝรั่งบ้างจังที่ได้เล่นหิมะ
   นึกถึงไอ้เรา สมันตอนยังเด็ก เล่นกับดินกับทรายถึงจะสกปรกแต่ก็มีความสุขและสนุกไปอีกแบบ


        พุ่มไม้ที่เห็นในภาพนี่ ไอ้ตอนที่เราเดินผ่าน มีคู่สามีภรรยา ที่อาศัยอยู่ที่ละเเวกนั้น เดินเข้ามาเตือนเราว่าเมื่อคืนวานก่อน มีเด็กผูหญิง อายุ15ปี โดนชายฉกรรจ์ลากเข้ามาข่มขืนในพุ่มไม้ตรงนี้ เนื่องจากที่นี่มันมืดเร็วเลยไม่มีใครออกมาเดิน ในตอนเย็นๆ หลังจากเด็กผู้หญิงคนนั้นโดนข่มขืนเสร็จเลยวิ่งมาไปบอกสามีภรรยาคู่นั้นให้ช่วยเหลือ เขาก็เลยโทรแจ้งตำรวจ ให้มาตามจับคนร้าย สุดท้ายก็ยังตามจับไม่ได้ ก็เลยมีการบอกเตือน ผู้หญิงที่เดินผ่านไปผ่านมาให้ระมัดระวังตัว

No comments:

Post a Comment