Thursday, 4 August 2011
สวัสดีไทยแลนด์ กับการกลับเมืองไทยของฉัน
สวัสดีค่ะเพื่อนๆขณะนี้ ดิฉันมาถึงเมืองไทยแล้ว ออกเดินจากบ้านตั้งแต่วันที่สิบห้ากรกฏาตอนเช้ามืดตาม
เวลาในลอนดอน นั่งเเท็กซี่จากบ้านไปสนามบินฮีทโทร์ว เครื่องออกเก้าโมงเช้า
ใช้เวลาสิบชั่วโมงจนถึงเมืองมุมบาย หรือเมืองบอมเบย์เก่าของอินเดียนั้นเอง สาเหตุที่ต้องต่อเครื่องด้วยความที่ปีนี้ตั๋วเครื่องบินประเภทบินไดเร็กซ์มันช่างแพงเหลือเกิน
ดิฉันเลยได้ซื้อตั๋วกับสายการบิน Jet Airway ด้วยราคาค่าเสียหาย 620ปอนด์ ซึ่ง ณ เวลานี้ในราคานี้ดิฉันถือว่าถูกที่สุดเท่าที่ดิฉันจะหาได้ เพราะเป็นช่วงซัมเมอร์ของเด็กนักเรียน
ตั๋วจึงขึ้นราคา ประกอบกับค่าน้ำมันที่ขึ้นเอาขึ้นเอา จึงทำให้ราคาค่าตั๋วของปีนี้แตกต่างจากปีก่อนๆ
ไม่รู้ว่าจะประทับใจหรือเสียใจดีที่ได้เลือกใช้บริการของสายการบินนี้ แต่ที่ให้สัญญากับตัวเองไว้ว่าจะไม่ซื้อตั๋วสายการบินนี้อีก เหตุผลเพราะว่าเต็มไปด้วยประชาชนคนอินเดีย สนามบินที่มุมบายก็ไม่ค่อยประทับใจเท่าไร อาหารที่มีให้ทานบนเครื่องก็น่ากลัว ของว่างที่ใส่มาในถาดอาหารก็สุดแสนที่จะบรรยาย คุณลองหลับตาแล้วนั่งนึกถึงถั่วที่อาบังแบกขายดูสิค่ะ ความรู้สึกอะไรประมาณนั้น
ยังไงเมื่อเราซื้อตั๋วมาแล้วก็ต้องนั่งทนจนกว่าจะถึง Bangkok แต่กว่าจะถึงบางกอกแม่ก็ล่อไวน์แดงไปหลายแก้ว จนเมาแปร๋
มาถึงไทยก็ตอนรุ่งเช้าของอีกวันตามเวลาของไทย พ่อกับน้องชายก็มารอรับที่สนามบิน แต่เครื่องบินเสือกดีเลย์หนึ่งชั่วโมง พ่อกับน้องก็ต้องยืนรอกันแฉะ แต่อย่างไรก็ดีที่มาถึงได้โดยสวัสดิภาพ
พอถึงบ้านเเม่ก็เตรียมอาหารเช้าไว้ให้ ซึ่งอาหารเช้าที่แม่ได้เตรียมไว้ก็คือ ต้มยำกุ้งหม้อใหญ่ น้ำตกหมู ปลานิลทอด แล้วก็ข้าวเหนียวนึ่ง ของว่างก็คือเงาะ กับ มังคุด มื้อนั่นเล่นทำเราซะท้องแน่น
อิ่มแปร๋เพราะล่อเข้าไปเยอะ
ช่วงบ่ายก็ออกจากบ้านไปประตูน้ำเพื่อไปแลกเงินที่ซุปเปอร์ริช ในย่านประตูน้ำ ซึ่งที่นี่ให้เรทดีกว่าที่อื่น ระหว่างการเดินทางจากบ้านสู่ประตูน้ำ ดิฉันได้สังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของกรุงเทพเป็นย่างมาก เพราะคอนโดที่มันผุดกันขึ้นมาอย่างเป็นดอกเห็ด ยังนึกสงสัยและสงสารกรุงเทพว่า ต่อไปกรุงเทพคงจะไม่เหลือพื้นที่ให้เราวิ่งเล่นอีกแล้วกระมั้ง ภาพในความทรงจำของเมืองกรุงเทพในอดีตของฉัน มันช่างแตกต่างกับกรุงเทพในยุคนี้ พศ.นี้เป็นอย่างมาก นั่งหัวเราะในใจซักวันหนึ่งเถอะมึงถ้าเกิดแผ่นดินไหวที่มีระดับรุนแรงขึ้นมา อีพวกตึกสูงสูงแม๋งกรูว่าต้องโค่นลงมาแน่
ด้วยดินในกรุงเทพไม่ได้เเข็งแรงเหมือนที่อื่น ลึกลงไปก็เป็นน้ำ พักเรื่องนี้ไว้ก่อนเพราะพูดทีไรแล้วทำให้เราอารมณ์เสีย
ลงรถประตูน้ำเข้าไปแลกเงินด้วยเรท 48บาท ต่อหนึ่งปอนด์ วันแรกดิฉันทำการแลกเงินไป 400ปอนด์ เพราะต้องแลกให้พอเนื่องจากวันรุ่งขึ้นจะต้องเดินทางไปเชียงใหม่ ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ขึ้นเชียงใหม่ของดิฉัน แต่ที่พิเศษยิ่งกว่า คือการที่เราได้พาพ่อกับแม่ของเราไปด้วย อันนี้เป็นความภาคภูมิใจอย่างหนึ่งที่เราอายุเพียงแค่นี้ และทำทุกอย่างได้ด้วยตัวของเราเอง ด้วยความสุจริต โดยไม่ได้พึ่งใคร นี่คือบันได้ก้าวแรกของเรา
พ่อเล่าให้ฟังว่าแม่ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก แพทกระเป๋าไว้ตั้งแต่สองอาทิตย์ก่อนที่เราจะมา ดิฉันเข้าใจค่ะเพราะว่าเป็นครั้งแรกของแกที่จะได้ขึ้นเครื่องบิน
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment