Wednesday 10 August 2011

พาแม่เที่ยวเจียงใหม่ ตอนขึ้นดอยสุเทพ


            การเดินทางสู่เชียงใหม่ในครั้งนี้ ดิฉันเลือกใช้บริการกับสายการบินนกแอร์ สาเหตุที่ได้เลือกใช้บริการนี้ก็เพราะว่าเป็นสายการบินราคาถูก ไม่อยากจะลงทุนมากเพราะเรายังอยู่ไทยอีกหลายวันแล้วยังต้องใช้เงินอีกหลายอย่าง ในการเดินทางอีกหลายๆที่

ย้อนกลับไปเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว สมัยที่เรายังเป็นเด็ก จำได้ว่าแม่เคยให้สัญญาไว้ว่าวันหนึ่งแกจะพาครอบครัวเราขึ้นเครื่องบินไปเที่ยว แต่มันก็เป็นไปได้อยากเพราะอาชีพของพ่อกับแม่แค่มีปัญญาที่ส่งเราให้เรียนจนถึงระดับมหาวิยาลัยได้ก็ถือว่าสุดยอดแล้ว

             ขอเล่าประวัติความเป็นมาซัุกนิด ฉันเกิดในครอบครัวที่ไม่ได้มีฐานะร่ำรวย พ่อขับสองแถวแม่เป็นกระเป๋ารถ พ่อของเราเขาเรียนมาน้อยอาชีพที่แกจะทำได้ก็มีแต่การขับรถสองแถวในสมัยนั้น      ส่วนฝ่าย
แม่มีคุณวุฒิจบปริญญาตรีจากมหาวิทยารามคำแหง คณะมนุษย์ศาตร์ เอกประวัติศาตร์ แต่ด้วยความที่เเกเป็นคนใหม่ยอมใครแล้วเป็นลูกน้องใครไม่ได้ ด้วยนิสัยส่วนตัวของแกจึงทำให้ไม่สามารถที่จะทำงานร่วมกับคนอื่นได้ ชีวิตถึงแม้ว่าจะไม่ได้ลำบากเลยทีเดียว แต่กว่าจะได้อะไรแต่ละอย่างมาก็ได้ฝ่าฟันโดยไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว

และการเดินทางในครั้งนี้ วัตถุประสงค์หลักของฉัน คือการที่จะพาพ่อกับแม่ไปไหว้พระธาตุดอยสุเทพ



                เราไปขึ้นเครื่องที่ท่าอากาศยานบินดอนเมือง ซึ่งใช้เวลาเพียงแค่ 45นาทีก็ถึงถึงสนามบินเชียงใหม่ พอถึงสนามบินเราก็ใช้บริการแท็กซี่จากสนามบินไปยังโรมแรมที่ได้ทำจากจองจากเว็ปไซต์ www.booking.com
 (โปรดจำไว้ว่าค่าแท็กซี่จากสนามบินไปยังโรงแรมราคาไม่เกินสองร้อยบาท ถ้าเกินโดนเรียกมากกว่านั้นอย่าได้ไปใช้บริการกับมัน)

                                               โรงแรมละมิงค์ ลอดจ์

เราได้ทำการเช็คอินในวันเสาร์ที่ 14 กรกฏาคม แล้วเช็คเอ้าท์ในวันอังคารที่17 กรกฏาคม ซึ่งก็เป็นระยะเวลา 4 วัน 3คืน สำหรับดิฉันแล้วก็ถือว่าพอเพียงกับการที่จะเอ็นจอยเชียงใหม่ซิตตี้



โรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่บนถนนลอยเคราะห์อยู่ทางระหว่าง ประตูท่าแพ กับ เชียงใหม่ไนท์บลาซ่า ถ้าใครชอบความสะดวกสบายง่ายกับการเดินทางก็ขอแนะนำทีนี่เลยค่ะ มีข้อเสียอย่างเดียวคือถนนด้านนอกของโรงแรมคุณโส เยอะเหลือเกิน แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าคุ้มกับราคาที่จ่ายไป ห้องสะอาดบริการก็ดี รวมทั้งมีสระว่ายน้ำให้บริการแก่ลูกค้าที่มาพัก 

              ในคืนวันแรกเราก็ไม่ได้ทำอะไรมากนัก ก็ชิิวชิวไปหาอะไรกินแถวไนท์บลาซ่า แล้วก็กลับมาพักที่โรงแรม เตรียมตัวขึ้นดอยสุเทพในวันรุ่งขึ้น

เช้าวันรุ่งขึ้นของวันที่ หลังจากรับประทานอาหารเช้าที่โรงแรมได้จัดไว้ให้ เสร็จแล้วเราก็เดินออกไปที่ถนนคชสาร ซึ่งเป็นถนนใหญ่อยู่ถัดไปจากถนนลอยเคราะห์

               ดิฉันได้เหมารถสองแถวแดงซึ่งมีคนขับเป็นผู้หญิง แล้วได้จ่ายค่าเสียหายในราคาหนึ่งพันบาทซึ่งเราเช่าทั้งวัน เขาบอกว่าพันหนึ่งพาเราไปได้ทุกทีจนถึงหกโมงเย็น ไอ้เราก็จ่ายเงินสดก่อนเลย พอมันพาเราไปดอยสุเทพ มันก็ปล่อยเราทิ้งวันจนเราไหว้พระเสร็จได้ตั้งนานก็ต้องไปยืนรอเป็นชั่วโมง จนกว่ามันจะมารับไปทีอื่นต่อ ซึ่งมันโกงชัดๆเพราะเราเหมาทั้งวันแล้วมาทำแบบนี้ มันก็ไม่ถูกไม่ควรอยากฝากเตือนสำหรับคนที่ขึ้นเชียงใหม่ครั้งแรกให้ดีนะค่ะ แต่ด้วยมาเพื่อไหว้พระทำบุญจึงไม่อยากอารมณ์เสียเอาเป็นว่าขออโหสิให้แล้วกัน เพียงแต่เอามาเล่าเพื่อฝากเตือนไว้เพราะเราว่ารู้ที่หลังว่าเขาจ่ายกันแค่สี่ร้อยเท่านั้น



มาต่อกันที่ดอยสุเทพ สมัยก่อนเวลาพูดถึงดอยสุทพ ดิฉันก็นึกถึงเพลงดอยสุเทพ ของคุณสุเทพวงค์กำแหง ศิลปินแห่งชาติสาขาเพลงไทย สากลขับร้อง ที่ร้องว่า ยืนเสียดฟ้าดังเหมือนหนึ่งเทพเสกสรร............. พูดแล้วทำให้ตัวเองดูแก่ แต่ที่จริงอายุเราเพียงแค่ยี่สิบห้าเอง


     รถสองแถวจอดให้เราลงตรงหน้าทางขึ้นดอยสุเทพ วันนั้นนักท่องเที่ยวค่อนข้างที่จะเยอะพอควร ทั้งไทยและต่างชาติ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเป็นคนไทยซะมากกว่า ที่ขึ้นไปสักการะพระธาตุ
ทางวัดมีลิฟให้บริการสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินขึ้นบันไดไม่ไหว ฉนนราคาค่าขึ้น - ลงก็เพียงแค่ยี่สิบบาทเท่านั้น

ลิฟขึ้นมาถึงบนดอย ดิฉันค่อนข้างที่จะตื่นเต้นเพราะบรรยากาศภายในวัดทำเอาเราเคลิ้ม คิดว่าเราเป็นสาวเครือฟ้าซะงั้น เราได้เดินวนพระธาตุสามรอบ แล้วจึงได้ทำการสักการะตามแบบประเพณี และวัฒนธรรมของที่นี่





หลังจากสักการะพระธาตุเสร็จ  เราก็เดินวนถ่ายรูปบรรยากาศภายในวัด แวะผ่านเข้าไปเจอหลวงพ่อในโบถส์ เลยพุ่งตรงเข้าไปเอาสายสิญจ์เพื่อความเป็นสิริมงคล











No comments:

Post a Comment